เมืองวุร์เซสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้ลงมติให้เป็น “เมืองศักดิ์สิทธิ์” สำหรับบุคคลข้ามเพศ หลังจากการประชุมสภาเทศบาลเมืองเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญท่ามกลางกระแสความขัดแย้งเกี่ยวกับสิทธิของคนข้ามเพศทั่วประเทศ
การลงมติครั้งนี้หมายความว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองจะไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลกลางในการบังคับใช้กฎหมายที่อาจกระทบต่อบุคคลข้ามเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการสุขภาพ การใช้ห้องน้ำสาธารณะ และการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศในเอกสารราชการ
สภาเมืองวุร์เซสเตอร์ได้อนุมัติข้อเสนอนี้ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากนักเคลื่อนไหวและชุมชน LGBTQ+ ในท้องถิ่นที่เห็นว่าคนข้ามเพศยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
ผู้สนับสนุน มองว่ามาตรการนี้เป็นก้าวสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของคนข้ามเพศและเป็นการส่งสารถึงหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้เกิดการเลือกปฏิบัติ
“นี่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับคนข้ามเพศในวุร์เซสเตอร์และที่อื่น ๆ” เอมี่ แบล็คเวลล์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ กล่าว “การลงมติครั้งนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม”
ฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษนิยมบางกลุ่ม แสดงความกังวลว่าการออกมติในลักษณะนี้อาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย และอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชนในวงกว้าง
“การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้เกิดข้อกังขาว่าเมืองกำลังละเมิดกฎหมายของรัฐหรือไม่” ไมเคิล คาร์เตอร์ ผู้แทนจากองค์กรที่สนับสนุนกฎหมายแบบดั้งเดิมกล่าว
เมืองวุร์เซสเตอร์ไม่ใช่เมืองแรกที่ประกาศตัวเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนข้ามเพศ ก่อนหน้านี้ เมืองซานฟรานซิสโก แอตแลนตา และซีแอตเทิล ได้มีมาตรการคล้ายกันเพื่อปกป้องสิทธิของประชากรข้ามเพศภายในเขตเมืองของตน
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการออกกฎหมายในหลายรัฐที่จำกัดสิทธิของคนข้ามเพศในเรื่องการดูแลสุขภาพ การแข่งขันกีฬาของนักกีฬาข้ามเพศ และการใช้ห้องน้ำตามอัตลักษณ์ทางเพศ
แม้ว่าการประกาศให้วุร์เซสเตอร์เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนข้ามเพศจะได้รับเสียงชื่นชมจากหลายฝ่าย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ายังมีความท้าทายทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะหากรัฐบาลของรัฐหรือรัฐบาลกลางต้องการเข้ามาแทรกแซง
“การตัดสินใจของเมืองอาจถูกท้าทายในศาลได้ หากมีฝ่ายที่มองว่าเป็นการขัดต่อกฎหมายของรัฐหรือกฎหมายรัฐบาลกลาง” ศาสตราจารย์มาร์ค แฮนเซน จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาว LGBTQ+ ในวุร์เซสเตอร์ การลงมติครั้งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของการยอมรับและปกป้องสิทธิของพวกเขาในช่วงเวลาที่หลายรัฐกำลังออกกฎหมายจำกัดสิทธิของกลุ่มคนข้ามเพศ
ในขณะที่หลายเมืองในสหรัฐฯ กำลังประกาศตัวเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับบุคคลข้ามเพศ ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่ามีความปลอดภัยและเปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQ+
แม้ว่ากฎหมายไทยจะยังไม่มีการรับรองสิทธิของบุคคลข้ามเพศในบางด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางเพศในเอกสารราชการ แต่ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเปิดรับและต้อนรับกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งมีชุมชนข้ามเพศที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับของสังคม
แม้ว่าไทยจะยังไม่มี กฎหมายรองรับการแต่งงานเพศเดียวกันอย่างสมบูรณ์ แต่ ไม่มีข้อห้ามทางกฎหมาย ที่จำกัดการใช้บริการทางการแพทย์สำหรับคนข้ามเพศ เช่น การทำศัลยกรรมแปลงเพศ หรือการเข้าถึงฮอร์โมนบำบัด ซึ่งตรงกันข้ามกับหลายรัฐในสหรัฐฯ ที่กำลังออกกฎหมายจำกัดสิทธิ์ของคนข้ามเพศ
ประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลาง ศัลยกรรมแปลงเพศ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมสำหรับบุคคลข้ามเพศและมี มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งแตกต่างจากสหรัฐฯ ที่โรงพยาบาลบางแห่งปฏิเสธการให้บริการแก่คนข้ามเพศโดยอ้างเหตุผลทางศาสนา
แม้ไทยจะยังมีอคติในบางกลุ่ม แต่ โดยรวมแล้วสังคมไทยยอมรับคนข้ามเพศในชีวิตประจำวันมากกว่า เช่น การจ้างงานคนข้ามเพศในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการเป็นพรีเซนเตอร์และบุคคลสาธารณะ เช่น ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ หรือ ฟิล์ม ธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร ที่เป็นบุคคลข้ามเพศที่ได้รับความนิยมในวงการบันเทิง
ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ ซึ่งคนข้ามเพศยังต้องเผชิญกับความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นในหลายรัฐ
กรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต ได้รับการจัดอันดับให้เป็น จุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดในเอเชีย โดยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างให้การยอมรับว่าประเทศไทยเปิดกว้างและเป็นมิตรกับคนข้ามเพศ
| หัวข้อ | ไทย | สหรัฐฯ |
|---|---|---|
| กฎหมายเกี่ยวกับคนข้ามเพศ | ไม่มีข้อห้ามเรื่องศัลยกรรมแปลงเพศหรือการใช้ฮอร์โมน | หลายรัฐมีกฎหมายจำกัดสิทธิ์ |
| การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ | เป็นศูนย์กลางศัลยกรรมแปลงเพศระดับโลก | มีข้อจำกัดในบางรัฐ |
| การจ้างงานและการยอมรับในสังคม | มีงานในหลายอุตสาหกรรม และสังคมยอมรับมากขึ้น | ยังคงมีการเลือกปฏิบัติในบางพื้นที่ |
| การท่องเที่ยวและความปลอดภัย | ได้รับการจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทาง LGBTQ+ ที่ดีที่สุดในเอเชีย | มีความเสี่ยงในบางเมืองและบางรัฐ |
Q1: วุร์เซสเตอร์คือเมืองอะไร และเหตุใดจึงถูกประกาศเป็น “เมืองศักดิ์สิทธิ์” สำหรับคนข้ามเพศ?
A1: วุร์เซสเตอร์เป็นเมืองในรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ได้รับการประกาศเป็น “เมืองศักดิ์สิทธิ์” สำหรับคนข้ามเพศเพราะสภาเมืองมีมติให้ปกป้องสิทธิของคนข้ามเพศ โดยไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐที่ต้องการบังคับใช้กฎหมายที่จำกัดสิทธิของพวกเขา
Q2: มติของวุร์เซสเตอร์ส่งผลต่อคนข้ามเพศในเมืองอย่างไร?
A2: คนข้ามเพศในวุร์เซสเตอร์จะได้รับการปกป้องจากกฎหมายที่อาจกดขี่สิทธิของพวกเขา เช่น การจำกัดการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ การใช้ห้องน้ำ และการระบุอัตลักษณ์ทางเพศในเอกสารราชการ
Q3: มีกี่เมืองในสหรัฐฯ ที่ประกาศเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนข้ามเพศ?
A3: นอกจากวุร์เซสเตอร์แล้ว เมืองอื่นๆ เช่น ซานฟรานซิสโก แอตแลนตา และซีแอตเทิล ก็ได้ประกาศเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนข้ามเพศเช่นกัน
Q4: การเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนข้ามเพศหมายถึงอะไร?
A4: หมายถึงเมืองนั้นๆ จะไม่ให้ความร่วมมือกับกฎหมายของรัฐหรือรัฐบาลกลางที่จำกัดสิทธิของคนข้ามเพศ และจะส่งเสริมความปลอดภัยและการเข้าถึงทรัพยากรสำหรับพวกเขา
Q5: ไทยถือเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับคนข้ามเพศมากกว่าสหรัฐฯ หรือไม่?
A5: ใช่ ไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดในเอเชีย และมีสังคมที่เปิดกว้างกว่าสหรัฐฯ ในหลายรัฐที่มีกฎหมายจำกัดสิทธิของคนข้ามเพศ
Q6: คนข้ามเพศในไทยได้รับการปกป้องทางกฎหมายอย่างไร?
A6: แม้ไทยจะยังไม่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่ไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ห้ามคนข้ามเพศเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เช่น การทำศัลยกรรมแปลงเพศ และการใช้ฮอร์โมนบำบัด
Q7: ไทยมีอุตสาหกรรมศัลยกรรมแปลงเพศที่โดดเด่นอย่างไร?
A7: ไทยเป็นศูนย์กลางศัลยกรรมแปลงเพศระดับโลก ด้วยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงและมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
Q8: เมืองใดในไทยที่เป็นมิตรกับคนข้ามเพศมากที่สุด?
A8: กรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต ได้รับการยอมรับว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดในเอเชีย
Q9: คนข้ามเพศในสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับอุปสรรคอะไรบ้าง?
A9: หลายรัฐในสหรัฐฯ ออกกฎหมายจำกัดสิทธิของคนข้ามเพศ เช่น การห้ามรับบริการทางการแพทย์ การจำกัดการใช้ห้องน้ำตามเพศที่ระบุ และการกีดกันจากการแข่งขันกีฬา
Q10: การประกาศเป็น “เมืองศักดิ์สิทธิ์” มีผลกระทบทางกฎหมายอย่างไร?
A10: อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างเมืองกับรัฐบาลของรัฐหรือรัฐบาลกลาง ซึ่งอาจนำไปสู่การฟ้องร้องหรือการถูกแทรกแซงจากหน่วยงานระดับสูง
FacebookFacebookXTwitterLINELineผลสำรวจล่าสุดจาก Gallup พบว่าประชากรที่ระบุว่าเป็น LGBTQ+ ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 9% ของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับและการเปิดเผยตัวตนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา FacebookFacebookXTwitterLINELine
FacebookFacebookXTwitterLINELineการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาภายใต้การบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งผลกระทบต่อสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างมีนัยสำคัญ หนึ่งในนโยบายที่สร้างความกังวลอย่างมากคือการลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ออกจากเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลกลางหลายแห่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC), กระทรวงศึกษาธิการ (DOE) และสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (USAID) FacebookFacebookXTwitterLINELine
FacebookFacebookXTwitterLINELineเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 มุห์ซิน เฮนดริกส์ อิหม่ามมุสลิมที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์คนแรกของโลก ถูกยิงเสียชีวิตในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ขณะที่เขานั่งอยู่ในรถและถูกชายสองคนที่สวมหน้ากากโจมตี แม้ว่าตำรวจยังไม่ได้ระบุแรงจูงใจในการสังหาร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็น การลอบสังหารเนื่องจากแนวคิดและการสอนของเขาที่สนับสนุนชุมชน LGBTQ+ ในศาสนาอิสลาม FacebookFacebookXTwitterLINELine